[แปลสัมภาษณ์] ข้อความจาก Aimer ถึงเด็กที่กำลังไล่ตามความฝัน “ไม่ใช่สิ่งที่ ‘ต้องทำ’ แต่สำคัญที่ว่าเรา ‘อยากทำ’ อะไร”
บทสัมภาษณ์จากเว็บไซต์ THE F1RST TIMES
วันที่ 28.07.2023
แปลและเรียบเรียงโดย Phatnr
Gunjouiro no Sora เพลงใหม่จากอัลบั้ม Open α Door ของ Aimer ได้รับเลือกให้เป็นเพลงประกอบโฆษณาโปรโมทการประกวดวาดภาพของเว็บไซต์ Docomo Mirai Museum
Docomo Mirai Museum เป็นงานประกวดวาดภาพเพื่อสนับสนุนความฝันและอนาคตของเหล่าเด็ก ๆ โดยสตอรี่ของ CM นั้นถ่ายทอดเรื่องราวของแม่ลูกครอบครัวหนึ่งที่อยากให้ลูกเต็มเปี่ยมไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์และจินตนาการอันไร้ขอบเขต
สิ่งที่เติมเต็มความอบอุ่นให้เรื่องราวของครอบครัวนี้ก็คือเพลง Gunjouiro no Sora ที่ Aimer ประพันธ์ขึ้นมานั่นเองค่ะ โดย Aimer เขียนเนื้อเพลงขึ้นมาจากประสบการณ์ในวัยเด็ก ซึ่ง “ความหวังสู่อนาคต” อันแสนไกลที่อัดแน่นอยู่ในบทเพลงนี้ก็เชื่อมโยงกับสตอรี่ของ CM ได้เป็นอย่างดี
Gunjouiro no Sora เป็นบทเพลงในช่วงย่ำค่ำที่แม้ท้องฟ้าจะมืดลงแต่ก็ยังเป็นสีฟ้า ยังคงหลงเหลือแสงสว่างรำไรขณะที่ดวงดาวเริ่มส่องประกาย ไม่มืดมิดแต่ก็ไม่สว่าง แม้จะทอสีน้ำเงิน แต่หากความรู้สึกของเราดื่มด่ำไปกับมัน ก็จะกลายเป็นค่ำคืนที่สวยงาม เป็นบทเพลงที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกนี้ค่ะ
ーสมัยเด็ก ๆ คุณ Aimer เป็นเด็กแบบไหนหรือครับ? หากมีความฝันเกี่ยวกับอนาคตในตอนนั้น หรือภาพอนาคตที่เคยวาดเอาไว้ก็อยากทราบด้วยครับ
Aimer : ฉันไม่ใช่ประเภทที่ออกไปเล่นสนุกสนานกับเพื่อนเท่าไหร่ แต่จะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่คนเดียวที่บ้านมากกว่าค่ะ ฉันชอบหนังสือกับดนตรีมาก ๆ แล้วก็อยากเป็นนักเขียนหรือนักร้องมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วค่ะ
ーช่วยเล่าโมเมนต์ในความทรงจำเกี่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ
Aimer : ด้วยความที่คุณพ่อของฉันทำวงดนตรี คุณแม่จึงมักจะพาฉันไปที่ไลฟ์เฮาส์บ่อย ๆ ตั้งแต่ยังเล็ก พอมาย้อนนึกดูตอนนี้ ที่นั่นเป็นแค่ไลฟ์เฮาส์เล็ก ๆ เองค่ะ แต่สำหรับฉันในวัยเด็กแล้ว เวทีมันกว้างใหญ่มาก ๆ และคุณพ่อที่ยืนอยู่บนนั้นก็ดูโดดเด่นเป็นประกายมากเลยค่ะ ระหว่างชมการแสดง บางครั้งฉันก็แอบกระซิบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคุณแม่เบา ๆ โดยไม่ให้รบกวนการแสดง ซึ่งมันสนุกมากเลย ฉันคิดว่าประสบการณ์ที่ได้จากในไลฟ์นั้นคงเป็นจุดเริ่มต้นของตัวฉันในวันนี้เองค่ะ
ーในฐานะที่คุณ Aimer ดำเนินกิจกรรมในฐานะศิลปินอยู่ จังหวะไหนที่รู้สึกว่าจินตนาการหรือไอเดียโลดแล่นมากที่สุดหรือครับ?
Aimer : ไม่ว่าจะสุขเศร้าเหงาสนุก จะอารมณ์ไหน จะอยู่ในระดับไหน แค่รู้สึกว่าใจสั่นขึ้นมาเพียงแวบเดียว ฉันก็จะเขียนจดวินาทีนั้นเอาไว้กันลืมค่ะ
ーใน CM เป็นเรื่องราวของเด็กที่ชื่นชอบอวกาศ แล้วคุณ Aimer มีเรื่องที่หลงใหลบ้างไหมครับ?
Aimer : ถ้านอกจากเรื่องดนตรีแล้วละก็ อาจจะไม่มากเท่าสมัยก่อน แต่ฉันก็ยังชอบอ่านหนังสือเหมือนเดิมค่ะ ส่วนช่วงนี้ฉันเพิ่งซื้อกล้องมาใหม่ และกำลังจดจ่ออยู่กับการถ่ายรูปด้วยกล้องตัวนั้นอยู่เลยค่ะ!
ーช่วยเล่าภาพอนาคตที่คุณ Aimer วาดฝันไว้ให้ฟังเป็นพิเศษหน่อยได้ไหมครับ
Aimer : อนาคตอันแสนไกลข้างหน้าก็ได้รับอิทธิพลมาจากประสบการณ์วัยเด็กของฉันเหมือนกันค่ะ อย่างที่คุณพ่อของฉันมีไลฟ์เฮาส์เล็ก ๆ ไว้แสดงดนตรี ฉันคิดว่าถ้ามีพื้นที่ว่างเอาไว้ตั้งไลฟ์บาร์ลับ ๆ ให้เพื่อน ๆ มาเซสชั่นวงกันเองได้ก็คงน่าสนุกดีนะ
ーช่วยบอกความรู้สึกเกี่ยวกับเพลงนี้ให้ฟังหน่อยครับ
Aimer : สำหรับ “Gunjouiro no Sora” เป็นเพลงที่ฉันเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกว่า แม้ฟ้าจะมืดลงแต่ก็ยังเป็นสีฟ้า แม้จะยังเหลือแสงสว่างรำไรแต่ก็เห็นแสงดาวแล้ว ฉันอยากตัดช่วงเวลาที่เพิ่งย่ำเข้ากลางคืนแบบนั้นออกมาจึงเขียนเพลงนี้ขึ้นมาค่ะ สำหรับวันพรุ่งนี้ วันมะรืน สองวันถัดไป หรืออนาคตที่อยู่ไกลจากวันเหล่านั้นออกไปอีก ค่ำคืนที่มาพร้อมกับความหวังเป็นอะไรที่มีค่ามาก แม้จะเป็นกึ่งฟ้ากึ่งน้ำเงิน ไม่มืดสนิทไปเสียทีเดียว ขอเพียงความรู้สึกของเราดื่มด่ำไปกับมัน ก็จะพบว่าค่ำคืนนั้นช่างสวยงาม ฉันใส่ความรู้สึกนี้ลงไปในเพลงค่ะ
ーช่วยพูดอะไรถึงเด็ก ๆ ที่กำลังไล่ตามความฝัน หรือคุณพ่อคุณแม่ที่คอยเฝ้าดูเด็ก ๆ เหล่านั้นหน่อยครับ
Aimer : เมื่อรู้สึกว่าชอบอะไรสักอย่าง ไม่อยากให้มองข้ามความรู้สึกตัวเอง แต่จงให้ความสำคัญกับมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม อยากให้คิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ ‘ต้องทำ’ แต่สำคัญที่ว่าเรา ‘อยากทำอะไร’ ค่ะ ขอให้คุณได้พบความฝันที่สำคัญสำหรับคุณ และขอให้ความฝันนั้นทำให้คุณเปล่งประกายยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกนะคะ ฉันเองก็อยากหาดนตรีที่สามารถซัพพอร์ตอนาคตของทุกคนให้เจอเหมือนกันค่ะ
0 Comments